แทบจะไม่มีใครที่ในยุคนี้ ที่ไม่รู้จัก บุหรี่ไฟฟ้า แล้วนะ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลายๆ คนก็เปลี่ยนจากบุหรี่มวนแบบธรรมดา มาเป็นบุหรี่ไฟฟ้า พอตใช้แล้วทิ้ง และจากการวิจัยของแพทย์ จากประเทศอังกฤษ ก็พบว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้น ให้อันตรายต่อร่างกายน้อยกว่าบุหรี่มวนถึง 95% อาจจะด้วยสารประกอบต่างๆ ที่ไม่มีสารพิษ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีอยู่มากมายหลายแบบ ซึ่งโดยเฉพาะในเมืองไทยก็มีอยู่ไม่น้อยเลย
ชนิดของบุหรี่ไฟฟ้ามีดังต่อไปนี้
- Cigalike บุหรี่ไฟฟ้าประเภทนี้ คือต้นแบบของบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ เลยก็ว่าได้ รูปแบบของเขาก็จะคล้ายกับบุหรี่มวนเพียงแต่ว่ามีกลไกการทำงานด้วยไฟฟ้า เมื่อทำให้เกิดความร้อนก็จะมีไอระเหยขึ้นมา เหมือนกับบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปนี่แหละ แต่สำหรับ Cigalike นี้ เป็นบุหรี่ประเภทใช้แล้วทิ้งนะ
- eGOS สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าตัวนี้ ก็ตาม Cikalike มาแบบติดๆ ค่ะ ซึ่งก็ทำให้ผู้คนได้รู้จักบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้นด้วย แต่สำหรับรูปร่างหน้าตา จะมีความแตกต่างกับ Cikalike เล็กน้อย เพราะจะมีรูปทรงเหมือนกับปากกา และ eGOS ยังต่างกับ Cikalike ตรงที่สามารถเปลี่ยนน้ำได้ ไม่ต้องใช้แล้วทิ้ง และน้ำยาก็มีให้เลือกหลายกลิ่นด้วย เมื่อใช้น้ำยาหมด ก็สามารถถอดแท็งก์ มาเติมน้ำยาได้เลย น้ำยาก็จะมีแบบ E-Liquid และ E-Juice น้ำยานี้นอกจากสามารถเลือกกลิ่นได้ ยังเลือกระดับของนิโคตินได้ด้วย
- MODs สำหรับตัวที่ 3 คือ eGOS ค่ะ โดยรวมลักษณะจะคล้ายกัน เพียงแต่รุ่นนี้จะมีแท็งก์น้ำยาที่ใหญ่กว่า เพราะการพัฒนาของรุ่นนี้คือสามารถปรับแรงดันได้แล้วด้วย ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าแบบ MODs นี้ จะแบ่งไปเป็นอีก 2 แบบย่อย คือ 1. Tube MODs ตัวนี้เรียกว่ายิงตรงระหว่างแบตเตอรี่กับอะตอมเลยค่ะ ไม่ต้องผ่านวงจรอื่น 2. Box MODs ตัวนี้จะต่างจากแบบแรกคือมีวงจรจ่ายไฟฟ้าเพื่อเข้ามาควรคุมระดับของความร้อนและการระเหย
- Pod พอดไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าตัวนี้กำลังเป็นที่นิยมสุดๆ ในวงการของผู้ที่ชื่นชอบบุหรี่ไฟฟ้า มีรูปแบบที่พกพาง่าย ดีไซน์สวย ซึ่งพอดนี้ ให้ความรู้สึกสูบกันแน่นๆ เหมือนกับสูบบุหรี่มวนเลยค่ะ กลิ่นน้ำยาก็มีให้เลือกกันไม่น้อย เหมาะสำหรับผู้ที่อยากออกไปเที่ยว หรือไปท่องราตรี ไม่ต้องพกซองพกไฟแช็คให้พะรุงพะรังด้วย มีพอด ตัวเดียวจบเลย
บทสรุปบุหรี่ไฟฟ้า มีกี่ชนิดในประเทศไทย
นับวันบุหรี่ไฟฟ้าก็จะมีการพัฒนารูปแบบเพิ่มขึ้นเพื่อเอาอกเอาใจและอำนวยความสะดวกให้กับนักพ่นควันกันอย่างต่อเนื่องนะ ถึงขั้นที่ว่าพัฒนาจนถึงมีการสั่นเตือนกันได้แล้ว ถ้าเราสูบบุหรี่มวนแบบธรรมดา แน่นอนว่าเราสามารถวัดได้ว่าสูบมากสูบน้อยได้ ก็เช็คจากจำนวนมวนที่เราสูบไป แต่บางครั้งคุยกันไปเพลินๆ ทำงาน เครียด ผ่อนคลายด้วยการสูบบุหรี่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนบุหรี่หมดซอง แต่บุหรี่ไฟฟ้าบางรุ่นในยุคนี้ จะมีระบบสั่นเตือนให้เลย ว่าคุณสูบเกินที่ร่างกายจะรับได้แล้วนะ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้านอกจากจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมตามที่กล่าวไว้ข้างต้น กลิ่นของควันที่ระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าก็ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวนคนรอบข้างด้วย