นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ได้กล่าวไว้ว่า “เรื่องนี้ประเทศไทย ควรจะต้องมีการทบทวนว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะเราต้องปรับตัวให้ทันต่อโลกกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสุดท้ายโรงงานยาสูบหรือผู้ปลูกใบยาสูบในประเทศไทย ก็จะเสียหายตามไปด้วย ถ้าเราไม่ปรับตัวตาม
โดยส่วนตัว นายชัยวุฒิ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ได้ติดตามเรื่องปัญหา บุหรี่ไฟฟ้า มาตลอด ถือว่าเป็นปัญหาของประเทศเนื่องจากมีการจำกัดไม่ให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า แต่ในหลายๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศอเมริกา
แถบยุโรป ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี หรือแม้แต่ประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านของเรา ซึ่ง ณ ตอนนี้มีมากถึง 67 ประเทศที่อนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้า พอตใช้แล้วทิ้ง และ Pod System ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีการรับรองโดยงานวิจัยแล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความปลอดภัยสูงกว่าการสูบบุหรี่จริง ซึ่งประชาชนในหลายๆประเทศก็เปลี่ยนมาบริโภคบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่างเป็นนัยยะสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการสูบบุหรี่จริง
ประเทศไทยต้องศึกษาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าให้ดีก่อน
นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนที่จะต้องมีการปรับแก้หรือร่างกฎหมายใหม่ เพื่อให้รองรับบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิระบุว่าประเทศไทยควรจะต้องมีการค้นคว้าศึกษาในเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยเฉพาะบุหรี่ที่มีการผลิตจากยาสูบแล้วสูบด้วยไฟฟ้า จะสามารถนำเอายาสูบไทยมาใส่ในบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างไร และยังมีการพิสูจน์มาแล้วทั่วโลกว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริง
พร้อมทั้งเชื่อว่า หากนำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ในประเทศไทย โรงงานยาสูบก็จะสามารถผลิตบุหรี่ไฟฟ้าแบบนี้ได้เช่นกัน พวกกลุ่มยาสูบก็จะสามารถขายยาสูบได้ เพราะทุกวันนี้เราถูกบุหรี่จากต่างประเทศ หรือบุหรี่ไฟฟ้า ที่แอบลักลอบนำเข้ามา ส่งผลให้บุหรี่ในตลาดบุหรี่ยาสูบในประเทศเสียหายหมดเลยตอนนี้ ต้องเร่งแก้ไข ปล่อยเอาไว้อย่างนี้ไปไม่ได้
บทสรุปบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
การเลิกบุหรี่แบบดั้งเดิมล้มเหลวมากถึง 95% จากทั้งหมด 31% ของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า สามารถเลิกบุหรี่ได้อย่างสมบูรณ์ภายใน 6 เดือน ในบรรดาผู้ที่เลิกบุหรี่ได้ 34% เลิกใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินทั้งหมด
สารที่ออกฤทธิ์ในบุหรี่และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คือ นิโคติน นิโคตินทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้มีการพบว่ามีสารพิษอื่น ๆ มากมายทั้งในบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า อย่างไรก็ตามสารพิษเหล่านี้ต่ำลง 9 ถึง 450 เท่าในผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า เมื่อยาสูบมีการเผาไหม้ มันจะปล่อยสารอันตรายออกมาหลายตัว รวมถึงสารเคมี เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ , คาร์บอน มอนอกไซด์ , แอมโมเนีย , ตะกั่ว , สารหนู , ไฮโดรเจน ไซยาไนด์
เมื่อดูที่บุหรี่ไฟฟ้าจะไม่มีการเผาไหม้ องค์ประกอบความร้อนจะทำให้สารละลายง่าย ๆ อย่างกลีเซอรีน สารปรุงแต่งรส และนิโคตินเสริมระเหยไป เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ จึงไม่มีสารอันตรายเหล่านี้ น้ำมันดินและสารเคมีที่เป็นพิษอื่นๆ ที่ผลิตโดยบุหรี่ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพที่แท้จริง สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้า แต่จะจริงหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ และในอนาคตเราอาจจะเห็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ผลิตโดยคนไทย ขายเอาเงินเข้าประเทศ